06.06.2561 Dutch De Heus sets up $16m feed plant in Myotha : บริษัท Dutch De Heus ตั้งโรงงานผลิตอาหารสัตว์มูลค่า 16 ล้านเหรียญ ในเขตอุตสาหกรรม Myotha Industrial Park ภูมิภาคมัณฑะเลย์ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา.
1. ขอบคุณ ภาพและข้อมูล จาก https://www.mmtimes.com/news/dutch-de-heus-sets-16m-feed-plant-myotha.html
Dutch De Heus sets up $16m feed plant in Myotha
31 MAY 2018
Located on 26,000 square metres in Myotha Industrial Park near Mandalay, the factory has an annual production capacity of 280,000 MT and is supported by a rooftop solar installation. Khin Su Wai/The Myanmar Times
โรงงานตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 26,000 ตารางเมตรในเขตอุตสาหกรรม Myotha Industrial Park ใกล้กับ Mandalay โรงงานมีกำลังการผลิต 280,000 ตันต่อปีและได้รับการสนับสนุนจากการติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์บนชั้นดาดฟ้า Khin Su Wai / The Myanmar Times
2. แปลโดย Google แปลภาษา.
บริษัท De Heus ประกาศเปิดตัวพื้นที่การผลิตแห่งที่สองของพม่าในวันอังคารโดยใช้เงินลงทุนรวมกว่า 30 ล้านเหรียญสหรัฐ โรงงานอาหารสัตว์แห่งนี้ในเมืองมั ณ ฑะเลย์ซึ่งรวมกับโรงงานย่างกุ้งจะช่วยให้ บริษัท ในเนเธอร์แลนด์สามารถเข้าถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นทั้งในตลาดพม่าและตลาดล่าง
โรงงานตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 26,000 ตารางเมตรในเขตอุตสาหกรรม Myotha Industrial Park ใกล้กับ Mandalay โรงงานมีกำลังการผลิต 280,000 ตันต่อปีและได้รับการสนับสนุนจากการติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์บนชั้นดาดฟ้าทำให้เป็นแหล่งผลิตอาหารสัตว์ที่ยั่งยืนที่สุดของพม่า
Royal de Heus ซึ่งเป็น บริษัท ครอบครัวที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศเนเธอร์แลนด์ก่อตั้งขึ้นในปีพ. ศ. 2454 ในเอเชียมีอยู่ในประเทศจีนอินเดียเวียดนามและพม่า บริษัท ข้ามชาติเปิดตัวโรงงานผลิตอาหารสัตว์แห่งแรกในย่างกุ้งในเดือนตุลาคมปี พ.ศ. 2559 ทำให้พม่าเป็นประเทศอาเซียนที่สองที่เข้ามาหลังจากเวียดนาม บริษัท ดำเนินธุรกิจคลังสินค้าเพื่อการขายในเมืองมั ณ ฑะเลย์ไม่กี่ปีเพื่อให้บริการลูกค้าในภูมิภาคนี้
ตามที่ Johan van den Ban กรรมการผู้จัดการของ De Heus Myanmar กล่าวว่าโรงงาน Myotha มีมูลค่าประมาณ 16 ล้านเหรียญสหรัฐขณะที่การลงทุนโดยรวมในประเทศมีมูลค่าเกินกว่า 30 ล้านเหรียญสหรัฐ
นาย Van den Ban กล่าวกับ The Myanmar Times ว่าการสร้างโรงงานในเมืองมายธ่าจะช่วยให้ De Heus สามารถตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นและเพิ่มปริมาณการขายในเมียนมาร์ "อย่างมาก" ด้วยกำลังการผลิตที่สถานที่ย่างกุ้งที่มีขีด จำกัด แล้วและยอดขายรายเดือนยังคงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วต้องใช้สถานที่ผลิตแห่งที่สอง
เขาคาดว่าการเติบโตของตลาดปศุสัตว์ในปีนี้จะเติบโตประมาณ 15-20 เปอร์เซ็นต์เนื่องจากการบริโภคโปรตีนจากสัตว์ผ่านเนื้อนมไข่และปลาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
"นับตั้งแต่ที่เราเข้ามาในพม่าภาคการเลี้ยงสัตว์ได้พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ De Heus พม่าได้กลายเป็นผู้นำด้านการจัดหาสารอาหารสัตว์แก่เกษตรกรรายย่อยทั่วประเทศแล้วนายแวนเดนแบนกล่าวเสริมว่าความรู้ด้านเทคนิคและอาหารที่มีคุณภาพจะช่วยเพิ่มการผลิตโปรตีนจากสัตว์ของพม่าและช่วยให้การเป็นมืออาชีพของพม่า ภาคปศุสัตว์
"ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่การลงทุนในระบบพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 516 กิโลวัตต์ซึ่งสามารถผลิตพลังงานทดแทนได้ 663 ล้านวัตต์ต่อปีเราจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 1.5 เมกกะวัตต์ ด้วยเหตุนี้เราจึงได้จัดตั้งโรงงานผลิตอาหารสัตว์ที่มีความยั่งยืนมากที่สุดในพม่า การใช้ไอน้ำของโรงงานแห่งนี้เกิดจากแหล่งพลังงานทดแทน "กรรมการผู้จัดการอธิบาย โรงงานผลิตอาหารสัตว์ผสมจะเป็นแหล่งวัตถุดิบครึ่งหนึ่งของประเทศในขณะที่อีกครึ่งหนึ่งที่เหลือจากยุโรปและอเมริกา ความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดสำหรับการผลิตคือการรักษาความปลอดภัยของวัสดุที่มีคุณภาพในประเทศ
'... โดยการลงทุนในระบบพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 516 กิโลวัตต์ซึ่งสามารถผลิตพลังงานทดแทนได้ 663 ล้านวัตต์ต่อปีเราจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 1.5 เมกกะวัตต์' Johan van den Ban, Royal de Heus
นอกจากนี้เขายังให้ความสำคัญกับพื้นที่บางส่วนที่ควรดำเนินการในประเทศเพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมเติบโตขึ้น ประการแรกนโยบายที่เข้มงวดเพื่อป้องกันการนำเข้าผลิตภัณฑ์โปรตีนจากสัตว์รวมทั้งสัตว์ที่มีชีวิตจากประเทศไทยและจีนควรมีการบังคับใช้อย่างเข้มงวด Nay Pyi Taw ต้องปกป้องเกษตรกรผู้เลี้ยงปศุสัตว์ในประเทศเนื่องจากในสภาพปัจจุบันมันท้าทายสำหรับพวกเขาที่สามารถแข่งขันได้ ประการที่สองควรเพิ่มการเข้าถึงเงินทุนสำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงปศุสัตว์ทั้งเงินทุนหมุนเวียนและเงินกู้เพื่อการลงทุน ภาคต้องทันสมัยซึ่งต้องใช้เงินทุน ขณะนี้เกษตรกรมักไม่สามารถรับเงินกู้เนื่องจากธนาคารมีเพียงเงินกู้ยืมที่มีหลักประกันที่เรียบง่ายเท่านั้น
นอกจากนี้แล้วกรอบกฎหมายที่ชัดเจนรวมถึงกฎหมายที่ดินอาจดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศได้มากขึ้นในขณะที่แหล่งจ่ายไฟที่เชื่อถือได้และมีความปลอดภัยรวมถึงโครงสร้างพื้นฐานที่ดีขึ้นสำหรับการขนส่งทางน้ำและทางบกตลอดจนท่าเรือเป็นปัจจัยสำคัญ
U Kyaw Htin รองประธานสหพันธ์ปศุสัตว์พม่ากล่าวกับ The Myanmar Times ว่าโรงงาน Mandalay ของ De Heus จะช่วยลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์และทำให้ผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์มีความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้นซึ่งเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงปศุสัตว์ในภูมิภาคนี้
นอกจากนี้เขายังกล่าวด้วยว่ามี บริษัท อาหารสัตว์ที่ได้รับการสนับสนุนด้านการลงทุนจากต่างประเทศจำนวน 7 แห่งในประเทศและ De Heus เป็น "คนเดียวที่ผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์ของ บริษัท ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าที่นี่"
Dutch De Heus sets up $16m feed plant in Myotha
31 MAY 2018
Located on 26,000 square metres in Myotha Industrial Park near Mandalay, the factory has an annual production capacity of 280,000 MT and is supported by a rooftop solar installation. Khin Su Wai/The Myanmar Times
โรงงานตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 26,000 ตารางเมตรในเขตอุตสาหกรรม Myotha Industrial Park ใกล้กับ Mandalay โรงงานมีกำลังการผลิต 280,000 ตันต่อปีและได้รับการสนับสนุนจากการติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์บนชั้นดาดฟ้า Khin Su Wai / The Myanmar Times
Animal feed firm De Heus announced the launch of its second production site in Myanmar on Tuesday, taking the overall investment in the country to more than US$30 million. This feed plant in Mandalay, combined with the Yangon facility, will enable the Netherlands-based company to tap into the growing demand in both upper and lower Myanmar markets.
Located on 26,000 square metres in Myotha Industrial Park near Mandalay, the factory has an annual production capacity of 280,000 MT and is supported by a rooftop solar installation, making it among the Myanmar’s most sustainable feed production site.
Royal de Heus, a family-owned company headquartered in the Netherlands, was founded in 1911. In Asia, it is present in China, India, Vietnam and Myanmar. The multinational launched its first animal feed mill in Yangon Region in October 2016, making Myanmar the second ASEAN country it entered after Vietnam. The company has been operating a sales warehouse in Mandalay for a few years to serve customers in the region.
The Myotha factory involves US$16 million, while the overall investment in the country has now exceeded $30 million, according to Johan van den Ban, managing director of De Heus Myanmar.
Mr Van den Ban told The Myanmar Times that building a plant in Myotha will allow De Heus to meet the growing demand and increase the sales volumes in upper Myanmar “significantly”. With production capacity at the Yangon site having already reached its limit and monthly sales figures still rising fast, a second production site was required.
He expected an annual growth of around 15-20 percent for the livestock drug market in the coming years, as consumption of animal proteins through meat, milk, eggs and fish is increasing rapidly.
“Since our arrival in Myanmar, the livestock sector has gradually developed. De Heus Myanmar has now become the leading supplier of animal nutrition solutions to independent farmers nationwide,” Mr Van den Ban remarked, adding that the technical know-how and quality feed will help scale up Myanmar’s production of animal protein and facilitate the professionalisation of the livestock sector.
“I am particularly proud that by investing in a 516kW rooftop-based solar energy system, which is able to produce 663MWh of renewable energy per year, we will save 1.5MT of CO2 emission. Thereby, we have established the most sustainable feed mill in Myanmar. The steam consumption of this factory is generated by renewable fuel sources as well,” the managing director explained. The compound feed plant will source half of its raw materials domestically while the remaining half from Europe and the Americas. The biggest challenge for production is to secure quality materials domestically.
‘...by investing in a 516kW rooftop-based solar energy system, which is able to produce 663MWh of renewable energy per year, we will save 1.5MT of CO2 emission.’ Johan van den Ban, Royal de Heus
He also highlighted a few areas where the country should work on in order for the sector to flourish. First of all, strict policies to prevent for illegal imports of animal protein products, including live animals, from Thailand and China should be in place and enforced. Nay Pyi Taw has to protect the domestic livestock farmers, as in the current condition it’s challenging for them to be competitive. Secondly, access to finance for livestock farmers, both working capital and loans to invest, should be enhanced. The sector has to modernise, which requires capital. Currently, farmers are generally not able to get a loan, because banks only offer simple collateral based loans.
Other than that, a clear legal framework, including land law, could attract much more foreign direct investments (FDI), while reliable and secure power supply as well as improved infrastructure for river and land logistics as well as a seaport are key factors.
U Kyaw Htin, vice chair of Myanmar Livestock Federation, told The Myanmar Times that De Heus’ Mandalay plant will reduce the logistics costs and render the animal feed products more competitive, benefiting livestock farmers in the region.
In addition, he said that there are seven foreign investment-backed animal feed companies in the country and De Heus is “the only one whose animal feed products have secured the trust from the customers here”.
2. แปลโดย Google แปลภาษา.
บริษัท De Heus ประกาศเปิดตัวพื้นที่การผลิตแห่งที่สองของพม่าในวันอังคารโดยใช้เงินลงทุนรวมกว่า 30 ล้านเหรียญสหรัฐ โรงงานอาหารสัตว์แห่งนี้ในเมืองมั ณ ฑะเลย์ซึ่งรวมกับโรงงานย่างกุ้งจะช่วยให้ บริษัท ในเนเธอร์แลนด์สามารถเข้าถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นทั้งในตลาดพม่าและตลาดล่าง
โรงงานตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 26,000 ตารางเมตรในเขตอุตสาหกรรม Myotha Industrial Park ใกล้กับ Mandalay โรงงานมีกำลังการผลิต 280,000 ตันต่อปีและได้รับการสนับสนุนจากการติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์บนชั้นดาดฟ้าทำให้เป็นแหล่งผลิตอาหารสัตว์ที่ยั่งยืนที่สุดของพม่า
Royal de Heus ซึ่งเป็น บริษัท ครอบครัวที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศเนเธอร์แลนด์ก่อตั้งขึ้นในปีพ. ศ. 2454 ในเอเชียมีอยู่ในประเทศจีนอินเดียเวียดนามและพม่า บริษัท ข้ามชาติเปิดตัวโรงงานผลิตอาหารสัตว์แห่งแรกในย่างกุ้งในเดือนตุลาคมปี พ.ศ. 2559 ทำให้พม่าเป็นประเทศอาเซียนที่สองที่เข้ามาหลังจากเวียดนาม บริษัท ดำเนินธุรกิจคลังสินค้าเพื่อการขายในเมืองมั ณ ฑะเลย์ไม่กี่ปีเพื่อให้บริการลูกค้าในภูมิภาคนี้
ตามที่ Johan van den Ban กรรมการผู้จัดการของ De Heus Myanmar กล่าวว่าโรงงาน Myotha มีมูลค่าประมาณ 16 ล้านเหรียญสหรัฐขณะที่การลงทุนโดยรวมในประเทศมีมูลค่าเกินกว่า 30 ล้านเหรียญสหรัฐ
นาย Van den Ban กล่าวกับ The Myanmar Times ว่าการสร้างโรงงานในเมืองมายธ่าจะช่วยให้ De Heus สามารถตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นและเพิ่มปริมาณการขายในเมียนมาร์ "อย่างมาก" ด้วยกำลังการผลิตที่สถานที่ย่างกุ้งที่มีขีด จำกัด แล้วและยอดขายรายเดือนยังคงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วต้องใช้สถานที่ผลิตแห่งที่สอง
เขาคาดว่าการเติบโตของตลาดปศุสัตว์ในปีนี้จะเติบโตประมาณ 15-20 เปอร์เซ็นต์เนื่องจากการบริโภคโปรตีนจากสัตว์ผ่านเนื้อนมไข่และปลาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
"นับตั้งแต่ที่เราเข้ามาในพม่าภาคการเลี้ยงสัตว์ได้พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ De Heus พม่าได้กลายเป็นผู้นำด้านการจัดหาสารอาหารสัตว์แก่เกษตรกรรายย่อยทั่วประเทศแล้วนายแวนเดนแบนกล่าวเสริมว่าความรู้ด้านเทคนิคและอาหารที่มีคุณภาพจะช่วยเพิ่มการผลิตโปรตีนจากสัตว์ของพม่าและช่วยให้การเป็นมืออาชีพของพม่า ภาคปศุสัตว์
"ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่การลงทุนในระบบพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 516 กิโลวัตต์ซึ่งสามารถผลิตพลังงานทดแทนได้ 663 ล้านวัตต์ต่อปีเราจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 1.5 เมกกะวัตต์ ด้วยเหตุนี้เราจึงได้จัดตั้งโรงงานผลิตอาหารสัตว์ที่มีความยั่งยืนมากที่สุดในพม่า การใช้ไอน้ำของโรงงานแห่งนี้เกิดจากแหล่งพลังงานทดแทน "กรรมการผู้จัดการอธิบาย โรงงานผลิตอาหารสัตว์ผสมจะเป็นแหล่งวัตถุดิบครึ่งหนึ่งของประเทศในขณะที่อีกครึ่งหนึ่งที่เหลือจากยุโรปและอเมริกา ความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดสำหรับการผลิตคือการรักษาความปลอดภัยของวัสดุที่มีคุณภาพในประเทศ
'... โดยการลงทุนในระบบพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 516 กิโลวัตต์ซึ่งสามารถผลิตพลังงานทดแทนได้ 663 ล้านวัตต์ต่อปีเราจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 1.5 เมกกะวัตต์' Johan van den Ban, Royal de Heus
นอกจากนี้เขายังให้ความสำคัญกับพื้นที่บางส่วนที่ควรดำเนินการในประเทศเพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมเติบโตขึ้น ประการแรกนโยบายที่เข้มงวดเพื่อป้องกันการนำเข้าผลิตภัณฑ์โปรตีนจากสัตว์รวมทั้งสัตว์ที่มีชีวิตจากประเทศไทยและจีนควรมีการบังคับใช้อย่างเข้มงวด Nay Pyi Taw ต้องปกป้องเกษตรกรผู้เลี้ยงปศุสัตว์ในประเทศเนื่องจากในสภาพปัจจุบันมันท้าทายสำหรับพวกเขาที่สามารถแข่งขันได้ ประการที่สองควรเพิ่มการเข้าถึงเงินทุนสำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงปศุสัตว์ทั้งเงินทุนหมุนเวียนและเงินกู้เพื่อการลงทุน ภาคต้องทันสมัยซึ่งต้องใช้เงินทุน ขณะนี้เกษตรกรมักไม่สามารถรับเงินกู้เนื่องจากธนาคารมีเพียงเงินกู้ยืมที่มีหลักประกันที่เรียบง่ายเท่านั้น
นอกจากนี้แล้วกรอบกฎหมายที่ชัดเจนรวมถึงกฎหมายที่ดินอาจดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศได้มากขึ้นในขณะที่แหล่งจ่ายไฟที่เชื่อถือได้และมีความปลอดภัยรวมถึงโครงสร้างพื้นฐานที่ดีขึ้นสำหรับการขนส่งทางน้ำและทางบกตลอดจนท่าเรือเป็นปัจจัยสำคัญ
U Kyaw Htin รองประธานสหพันธ์ปศุสัตว์พม่ากล่าวกับ The Myanmar Times ว่าโรงงาน Mandalay ของ De Heus จะช่วยลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์และทำให้ผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์มีความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้นซึ่งเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงปศุสัตว์ในภูมิภาคนี้
นอกจากนี้เขายังกล่าวด้วยว่ามี บริษัท อาหารสัตว์ที่ได้รับการสนับสนุนด้านการลงทุนจากต่างประเทศจำนวน 7 แห่งในประเทศและ De Heus เป็น "คนเดียวที่ผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์ของ บริษัท ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าที่นี่"
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น